ดัมเบลเป็นอุปกรณ์กีฬาชิ้นสำคัญในการเวทเทรนนิ่ง ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีพื้นที่วางจักรยานฟิตเนส หรือว่าลู่วิ่งในบ้าน โดยข้อดีของดัมเบล คือ ช่วยลดไขมันและสร้างกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ เช่น แขน อก หน้าท้อง รวมไปถึงส่วนขาด้วย แต่เนื่องจากดัมเบลเป็นอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก หากเป็นมือใหม่ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ วันนี้ NocNoc.com จึงมี 5 วิธีเลือกดัมเบลช่วยฟิตหุ่นให้ปัง พร้อมด้วย 10 ดัมเบลคุณภาพมาฝากทุกคนกัน!

ดัมเบล (Dumbbell) คือ อุปกรณ์ฟิตเนสชนิดหนึ่ง ที่ใช้สำหรับเสริมสร้างกล้ามเนื้อในร่างกายในแข็งแรงยิ่งขึ้น นิยมใช้กับกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนอย่างแขน ไหล่ อก หลัง ไปจนถึงหน้าท้องและขาได้อีกด้วย หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการเล่นเวท หรือเวทเทรนนิ่ง โดยดัมเบลมีรูปแบบ วัสดุ และการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตามรูปแบบการออกกำลังกาย
สำหรับใครที่กำลังหาว่าควรจะเลือกดัมเบลอย่างไรดี NocNoc.com จัดมาให้แล้วกับ 5 วิธีเลือกดัมเบลให้เหมาะสม ช่วยเสริมหุ่นปัง ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!
5 วิธีเลือกดัมเบลให้เหมาะสม ช่วยเสริมหุ่นปัง
- เลือกให้เหมาะกับรูปแบบการออกกำลังกาย

เริ่มต้นด้วยการเลือกดัมเบลให้เหมาะกับรูปแบบการออกกำลังกายที่ต้องการ เช่น เป็นเซ็ตแบบต่อเนื่อง หรือใช้ประกอบการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆ เช่น โยคะหรือพิลาทิส จะช่วยให้เลือกประเภทดัมเบล วัสดุ และน้ำหนักให้เหมาะสมได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอีกด้วย
- เลือกที่ประเภทของดัมเบล

ประเภทของดัมเบลเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ช่วยให้เลือกดัมเบลได้เหมาะกับการออกกำลังกายมากขี้น โดยปกติจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 ประเภท ซึ่งจะเหมาะกับผู้เริ่มต้น หรือผู้ที่ฝึกเวทเทรนนิ่งมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แบ่งได้ดังต่อไปนี้
2.1 ดัมเบลแบบปรับน้ำหนักไม่ได้ (Fixed Dumbbells) เป็นดัมเบลที่ไม่สามารถปรับน้ำหนักได้ มักจะเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย และเน้นความทนทานของกล้ามเนื้อมากกว่าขนาด มักมีน้ำหนักไม่มากนัก เช่น 2 กิโลกรัม
2.2 ดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้ (Adjustable Dumbbells) เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำและอยากจัดโปรแกรมเวทเทรนนิ่งให้เข้ากับตัวเอง ดัมเบลแบบนี้จะลดหรือเพิ่มขนาดได้ตามต้องการ เหมาะกับใครที่คิดว่าจะออกกำลังกายด้วยดัมเบลในระยะยาว
- เลือกที่น้ำหนัก

เนื่องจากดัมเบลเป็นอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักให้เลือกหลายระดับ จึงควรเลือกตามความสามารถในการออกกำลังกาย สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นผู้ชายควรเริ่มที่น้ำหนัก 5-10 กิโลกรัม และผู้หญิงเริ่มที่ 2-3 กิโลกรัม เพื่อไม่ให้หนักหรือเบาจนเกินไป เมื่อออกกำลังกายไปได้สักระยะหนึ่งจนกล้ามเนื้อเริ่มแข็งแรงขึ้นแล้ว จึงค่อย ๆ เปลี่ยนให้มีน้ำหนักมากขึ้นประมาณร้อยละ 25 ของน้ำหนักเดิม แต่ก็ไม่ควรฝืนใช้ดัมเบลที่มีน้ำหนักมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้
- เลือกที่วัสดุ

นอกจากจะต้องเลือกดัมเบลตามประเภทที่เหมาะกับรูปแบบการออกกำลังกายของเราแล้ว วัสดุที่เลือกใช้ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะส่งผลต่อการใช้งาน และการบำรุงรักษา โดยวัสดุหลัก ๆ ที่ใช้ผลิตดัมเบล มีดังต่อไปนี้
4.1 เหล็ก เป็นวัสดุที่พบได้บ่อยในดัมเบลแบบเปลี่ยนน้ำหนักได้ มีจุดเด่นที่ความแข็งแรง ทนทาน หาซื้อได้ง่าย แต่มีข้อเสียที่เสียงดัง และเสี่ยงต่อการเกิดสนิมได้ง่ายกว่า ควรใช้งานในพื้นที่เฉพาะ เช่น ห้องที่ปูพื้นยางฟิตเนส
4.2 เหล็กหุ้มยาง เป็นดัมเบลที่ผลิตจากเหล็กแต่หุ้มยางไว้ภายนอก ซึ่งช่วยป้องกันเสียงดัง หรือรอยกระแทกเมื่อตกหล่น อีกทั้งยังช่วยให้จับถนัดมือ ทำความสะอาดง่าย แต่มีราคาสูงกว่าดัมเบลเหล็กทั่วไป
4.3 ยางหรือพลาสติก เป็นวัสดุที่พบได้บ่อยในดัมเบลแบบปรับน้ำหนักไม่ได้ มักผลิตจากพลาสติกหรือ PVC มีขนาดเล็กและทำความสะอาดได้ง่าย อีกทั้งยังหาซื้อได้สะดวกอีกด้วย
- เลือกที่การจัดเก็บ

สุดท้ายเป็นเรื่องการจัดเก็บ สำหรับใครที่ใช้ดัมเบลเป็นชุด ควรเลือกแบบที่มีกระเป๋าหรือกล่องจัดเก็บ หรือจะเป็นดัมเบลที่มาพร้อมชั้นวางก็ได้เหมือนกัน เพราะช่วยให้จัดวางในบ้านได้สะดวกมากขึ้น ไม่เกะกะพื้นที่ในบ้าน หรือหากจะนำไปออกกำลังกายนอกบ้าน ก็เคลื่อนย้ายได้สะดวก เพียงยกไปพร้อมกันทั้งชุด