[metaslider id="42"]

dumbbell Fixed Weight

Read More

dumbbell Adjustable

Read More

dumbbell Selectorizrd

Read More

10 ท่า ลดเอว ลดพุง สร้างกล้ามท้อง ลดเร็ว ได้ผลจริง!

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 1

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 1

1.1 นอนตะแคง แขนซ้ายตั้งศอก มือขวาเท้าเอวไว้ วางสะโพกซ้ายและต้นขาซ้ายแนบพื้น
1.2 เกร็งหน้าท้อง ยกสะโพกและต้นขาขึ้นจากพื้น ให้ลำตัวตั้งตรง
1.3 ทำข้างละ 15-20 ครั้ง

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 2

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 2

2.1 นอนหงาย ยกขาทั้งสองข้างขึ้น งอเข่า ทำมุม 90 องศา ยกลำตัวด้านบนขึ้น และเหยียดแขนออกไปด้านหน้า
2.2 เหยียดขาขวาตรงออกไปด้านหน้า
2.3 จากนั้นสลับเป็นขาซ้าย เหยียดออกไปด้านหน้า
ทำซ้ำ 15-20 ครั้ง

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 3

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 3

3.1 นอนหงาย ยกขาทั้งสองข้างขึ้น งอเข่า ทำมุม 90 องศา ยกต้นคอและศีรษะขึ้น แขนทั้งสองวางไว้ด้านหลังศีรษะ
3.2 บิดลำตัวด้านบนไปทางซ้าย ให้ศอกขวาแตะเข่าซ้าย พร้อมๆ กับเหยียดขาขวาออกไป
3.3 จากนั้นสลับ บิดลำตัวด้านบนไปทางขวา ให้ศอกซ้ายแตะเข่าขวา พร้อมๆ กับเหยียดขาซ้ายออกไป
ทำซ้ำ 15-20 ครั้ง

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 4

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 4

4.1 ยกลำตัวและขาขึ้นให้เป็นรูปตัว V งอเข่าให้ขาขนานกับพื้น ประสานมือทั้งสองข้างชี้ไปด้านหน้า
4.2 จากนั้นบิดลำตัวไปด้านขวาและทิ่มมือลงด้านขวา
4.3 จากนั้นสลับ บิดลำตัวไปด้านซ้ายและทิ่มมือลงด้านซ้าย
ทำซ้ำ 15-20 ครั้ง

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 5

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 5

5.1 นอนหงาย เหยียดแขนขวาขึ้นเหนือศีรษะ แขนซ้ายวางข้างลำตัว พร้อมกับชันเข่าขวาขึ้น
5.2 ยกลำตัวและขาซ้ายขึ้น ใช้มือขวาแตะปลายเท้าซ้าย
5.3 จากนั้นสลับข้าง เหยียดแขนซ้ายขึ้นเหนือศีรษะ แขนขวาวางข้างลำตัว พร้อมกับชันเข่าซ้ายขึ้น
5.4 ยกลำตัวและขาขวาขึ้น ใช้มือซ้ายแตะปลายเท้าขวา
ทำซ้ำ 15-20 ครั้ง

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 6

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 6

6.1 นอนหงาย ตั้งเข่า เหยียดแขนขึ้น
6.2 ยกขาซ้ายขึ้น พร้อมบิดตัว วาดมือขวาแตะปลายเท้าซ้าย จากนั้นสลับข้าง
ทำซ้ำ 15-20 ครั้ง

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 7

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 7

7.1 ยกลำตัวและขาขึ้นให้เป็นรูปตัว V งอเข่าเล็กน้อย มือสองข้างเท้ากับพื้น
7.2 เอนหลังลงเล็กน้อย พร้อมเหยียดขาทั้งสองข้างออกไปด้านหน้า
ทำซ้ำ 15-20 ครั้ง

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 8

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 8

8.1 นอนหงาย ชันเข่าขึ้น มือทั้งสองข้างวางไว้ด้านหลังศีรษะ
8.2 เกร็งหน้าท้อง ยกลำตัวด้านบนขึ้นเล็กน้อย
ทำซ้ำ 15-20 ครั้ง

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 9

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 9

9.1 นอนหงาย ขาเหยียดตรง มือทั้งสองข้างเหยียดขึ้นเหนือศีรษะ
9.2 ยกลำตัวและขาขึ้นเป็นรูปตัว V พร้อมกับเหยียดแขนตรงไปด้านหน้า
ทำซ้ำ 15-20 ครั้ง

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 10

ท่าลดเอว ลดพุง ท่าที่ 10

10.1 นอนคว่ำ ตั้งศอกลงกับพื้น เกร็งลำตัวให้ตรง

เชือกกระโดด ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2022

1. JASON เจสัน เชือกกระโดด รุ่น X-Slasher

เชือกกระโดด JASON รุ่น X-Slasher เชือกกระโดด รุ่นนี้ สามารถที่จะปรับความยาวเชือกกระโดดได้ตามความเหมาะสมกับผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าสะดวกมากๆ สามารถใช้งานได้หลายคน ตัวเชือกทำจากสายเคเบิล ค่อนข้างมีน้ำหนักมาก การใช้งานได้ง่ายโดยไม่บิดงอ ความยาวของสาย 2.8 เมตร เส้นรอบวง 4 มิลลิเมตร ขนาดด้ามจับ 13.5 เซนติเมตร ลูกปืนเกรดดีหมุนได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด ด้ามจับยางกันลื่นเพื่อการจับที่กระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ ช่วยเร่งการเผาผลาญ ลดไขมัน ในร่างกาย โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์มาก สะดวกต่อการพกพาและการจัดเก็บ

คุณสมบัติเด่น

  • สามารปรับความยาวสายได้ตามความเหมาะสมกับผู้ใช้
  • ประเภทสายทำจากสายเคเบิล ไม่บิดงอ

2. Everlast เชือกกระโดด

เชือกกระโดด Everlast ทำจากวัสดุ ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน แข็งแรงทนทาน ออกแบบด้ามจับอลูมิเนียมเคลือบด้วยโฟมพร้อมด้วยกริ๊ปแบบยางเพื่อเพิ่มความนุ่มสบายมือป้องกันการหลุดมือเมื่อใช้งาน นวัตกรรมทันสมัยสามารถปรับขนาดเชือกได้ตามการใช้งาน ใช้งานง่ายเชือกไม่พันกันและป้องกันไม่ให้เชือกยืดตัวขณะใช้งาน ใช้งานได้อย่างลื่นไหลด้วยตลับลูกปืนป้องกันแรงบิดไม่สะดุดระหว่างการใช้งานอย่างต่อเนื่อง เชือกทำจากพลาสติกคุณภาพดี ความยาวสายเริ่มต้น 9 ฟุต และสามารถปรับขนาดตามการใช้งาน มือจับบรรจุก้อนเพื่อถ่วงน้ำหนัก สามารถปรับน้ำหนักได้ เพิ่มน้ำหนักก้อนน้ำหนักได้ถึง1.5ปอนด์ เพื่อช่วยเพิ่มแรงเหวี่ยงตอนออกกำลังกาย เพื่อให้การออกกำลังกายสามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย รูปทรงสวยงามทันสมัย

คุณสมบัติเด่น

  • สามารถปรับความยาวสายได้ตามการใช้งาน
  • ด้ามจับอลูมิเนียมเคลือบโฟมจับถนัดมือ มีความแข็งแรงทนทาน
  • มีก้อนถ่วงน้ำหนัก ที่สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามการใช้งาน

3. Reebok Premium Speed Rope

Reebok Premium Speed Rope เชือกกระโดดจากยี่ห้อที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์การออกกำลังกาย จึงมั่นใจในเรื่องของคุณภาพของสินค้า เชือกกระโดดรุ่นนี้มีน้ำหนักที่เบา ด้ามจับและสายเรียวยาว เหมาะสำหรับการกระโดดเชือกที่ต้องการกระโดดแบบรวดเร็ว เป็นเชือกกระโดดที่มีมีสันสวยงามน่าใช้ ออกแบบด้วยสายเคเบิลเหล็กเคลือบที่ทนทานสามารถปรับได้ ตามความต้องการของคุณ ความยาวสายสามเมตร ใช้งานสะดวกลื่นไหลด้วยกลไกลูกปืน ช่วยให้เชือกสามารถหมุนได้อย่างอิสระ พร้อมที่จับแบบถ่วงน้ำหนักเพื่อความรู้สึกมั่นคง ช่วยให้เกิดการหมุนที่ราบรื่นและสม่ำเสมอมีคุณสมบัติของด้ามจับเคลือบยางเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

คุณสมบัติเด่น

  • สามารถปรับความยาวสายได้ตามความต้องการ
  • สายทำจากเคเบิลไม่บิดงอ
  • มีการถ่วงน้ำหนักที่ด้ามจับ

เคล็ดลับดีๆ ในการออกกำลังกายด้วยงานบ้าน ขัดถูตามจังหวะ

เกร็งกล้ามเนื้อเพิ่มความกระชับ

เวลาปัดกวาดทำความสะอาดประตู หน้าต่าง หรือตู้ที่อยู่สูง ให้เขย่งปลายเท้า เกร็งกล้ามเนื้อน่อง กล้ามเนื้อท้อง แล้วผ่อนคลาย ทำสลับกันสัก 15 ครั้ง หยุดพัก แล้วทำอีก 15 ครั้งให้ครบ 3 ชุด เพียงเท่านี้หน้าท้องแบบราบและขาเรียวสวยก็ไม่หนีไปไหน

กระชับวงแขนด้วยตะกร้าซักผ้า

ตะกร้าซักผ้าเป็นมากกว่าที่ใส่เสื้อผ้าหืนๆ นี่ล่ะคือเครื่องมือช่วยลดน้ำหนักอีกอย่างหนึ่ง เริ่มจากทูนตะกร้าขึ้นไปเหนือศีรษะ ยกให้สุดแขนแล้วค่อยๆ ลดแขนลง (แต่ก็ยังอยู่เหนือศีรษะอยู่) ทำซ้ำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง จะช่วยบริหารไหล่และแผ่นหลัง กระชับเรียวแขน ถ้ายืนจนเมื่อยแล้วก็เปลี่ยนเป็นนอนหงาย วางตะกร้าไว้บนอก ยกขึ้นและลง 3 เซ็ตเท่าเดิม ถ้าตะกร้าหนักไป อนุโลมให้เอาเสื้อผ้าออกได้จนกว่าจะได้น้ำหนักพอดีๆ

เรียวขาฟิตเฟิร์มกับเก้าอี้

หาเก้าอี้ที่มั่นคงและมีพนักแขนดีๆ สักตัว ให้เก้าอี้หันจนที่วางแขนด้านหนึ่งอยู่ข้างหน้าเรา จากนั้น ใช้มือจับที่วางแขนไว้ทั้งสองข้างแล้วค่อยๆ โน้มตัวลงมา เก็บคอเข้าด้านในเพื่อที่จะได้ไม่ปวดเกร็ง จากนั้น เหวี่ยงขาขวาไปด้านหลัง จนกระทั่งขาขนานกับพื้นแล้วค่อยลดลงมา ถ้าทำถูกจะเปลี่ยนข้างเป็นขาซ้าย สลับไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกว่าเหนื่อยมากแล้ว ภายในไม่กี่สัปดาห์จะเห็นได้ชัดว่า ต้นขาแน่นเฟิร์มและสะโพกกระชับขึ้น

น่องกระชับกับขั้นบันได

  • ก่อนอื่นเลยต้องมุ่งหน้าไปที่บันได
  • ยืนที่ขั้นล่างสุดแล้วย่ำเท้าอยู่กับที่สัก 1 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อขาได้ยืดเส้นยืดสาย
  • ให้ก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกเท่านั้นแล้วก้าวลงมา ขึ้น-ลงซ้ำๆ 10 รอบก่อน แล้วย่ำอยู่กับที่ต่ออีก 15 วินาทีถือเป็น 1 เซ็ต
  • ก้าวขึ้นบันได 2 ขั้น แล้วถอยลงมา ขึ้น-ลงอย่างนี้อีก 10 รอบ แล้วย่ำอยู่กับที่อีก 15 วินาที ถือเป็นเซ็ตที่ 2
  • ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนครบ 10 เซ็ต โดยเพิ่มขั้นบันไดเซ็ตละ 1 ขั้น เมื่อครบทั้ง 10 เซ็ตแล้วอาจจะเหนื่อยสักหน่อย แต่สำหรับคนที่ขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วรู้สึกเวียนหัวให้เริ่มช้า ๆ และขึ้นบันไดแค่ 1-3 ขั้นก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวน เมื่อรู้สึกว่าขึ้นได้สบายแล้ว

ไล่เซลลูไลต์ด้วยเก้าอี้กำแพง

ในระหว่างที่ดูโทรทัศน์เพลิน ๆ อย่าลืมกระชับหุ่นสวยไปด้วย เริ่มต้นจากยืนหันหลังให้กำแพง แยกขาให้มีความกว้างระดับไหล่ ค่อย ๆ ย่อเข่าจนหลังยันกำแพงและเข่า ทำมุมประมาณ 30 วินาที (ถ้าไม่ชอบนับก็ประมาณเอาจากความยาวโฆษณาหนึ่งตัว) ท่านี้จะช่วยบริหารแกนของร่างกาย สะโพก กล้ามเนื้อต้นขา และป้องกันเซลลูไลต์สะสมได้

เต้นรำทำครัว

เวลาทำผัดอาหารหน้าเตา ล้างผัก หรือล้างจาน ให้ย่ำเท้าเป็นจังหวะตามเสียงเพลงในขณะที่มือทำงาน จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อขาและแขนไปพร้อมๆ กันทำให้ต่อเนื่อง ควรทำหลายๆ กิจกรรมต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น รีดผ้า 30 นาที ต่อด้วยกวาดบ้าน 30 นาที แล้วต่อด้วยถูบ้าน 30 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 100-200 กิโลแคลอรี

การทำท่า Lunge

เคลียร์พื้นที่ในบ้านสักหน่อย เพื่อต้นขาเรียวสวยด้วยท่า Lunge การทำท่า Lunge ช้า ๆ จะบังคับให้คุณใช้แรงมากขึ้นโดยอัตโนมัติ

  • ก้าวขาขวายาว ๆ ไปข้างหน้า
  • ย่อเข่าขวาจนทำมุมประมาณ 45 องศา แล้วค้างไว้ 5 วินาที
  • ย่อเข่าขวาลงอีกจนทำมุมฉากกับพื้น ค้างท่านี้ไว้อีก 5 วินาที (ในขณะนี้ขาซ้ายก็จะชี้ไปข้างหลัง และเข่าซ้ายจะตั้งฉากกับพื้น)
  • ค่อย ๆ ยกตัวขึ้นและหยุดที่เข่าทำมุม 45 องศส ค้างไว้ 5 วินาที
  • ยกตัวขึ้นจนกลับมาอยู่ในท่ายืนตามปกติ แล้วทำท่าซ้ำกับขาซ้าย

กิจกรรมเสริมสร้างความยืดหยุ่นของร่างกาย เพิ่มกล้ามเนื้อ

เพิ่มกล้ามเนื้อ

บอดี้เวท (Body Weight) คือ การออกกำลังกายที่ใช้น้ำหนักของตัวเองเป็นแรงต้าน นับเป็นวิธีเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง โดยท่าออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อแบบบอดี้เวทที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ มีดังนี้

  • วิดพื้น (Push Up) วางมือทั้งสองข้างบนพื้นไม่ให้ล้ำหน้าหัวไหล่ ยืดแขนจนสุด เหยียดขาให้ตรงโดยหัวเข่าไม่แตะพื้น จากนั้นงอข้อศอกให้หน้าอกลดต่ำลง ห่างจากพื้นประมาณ 2 นิ้ว แล้วดันตัวขึ้นมาจากพื้น
  • ฝึกกล้ามเนื้อหลังแขน (Tricep Dip) นั่งชันเข่าขึ้นมา วางฝ่าเท้าเต็มพื้น วางฝ่ามือราบไปกับพื้นด้านหลังโดยหันมือให้นิ้วเข้าหาลำตัวที่อยู่ข้างหน้า จากนั้นยกสะโพกขึ้นจากพื้น พร้อมกับค่อย ๆ งอศอกพร้อมกับลดลำตัวจนถึงพื้น แล้วดันกลับขึ้นมา ทำซ้ำเช่นนี้เซตละ 12-15 ครั้ง จำนวน 2 เซต
  • สควอท (Squat) ยืนกางเท้าให้กว้างเท่ากับไหล่ ปล่อยแขนไว้ข้างลำตัวหรือยกแขนยื่นไปข้างหน้าเพื่อช่วยทรงตัว จากนั้นงอเข่าย่อตัวลงไป โดยให้ต้นขาขนานกับพื้นและหลังตรง ระวังอย่างอเข่าจนหัวเข่าเลยปลายเท้า ทำซ้ำเซตละ 15-24 ครั้ง จำนวน 2 เซต
  • บริหารขา (Lunge) ยืนในท่าเตรียมโดยก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า จากนั้นงอเข่าซ้ายช้า ๆ พร้อมกับย่อตัวลงไปจนขาทั้งสองข้างตั้งฉาก ทิ้งน้ำหนักลงบนส้นเท้าแล้วค่อยกลับมาอยู่ในท่าเริ่มต้น ควรให้หลังตรงและไม่งอเข่าจนเลยปลายเท้า ทำเช่นนี้ 15-24 ครั้ง แล้วสลับทำอีกข้าง
  • บริหารหน้าท้อง (Crunch) นอนราบบนพื้น ชันเข่าขึ้นมา มือแตะหลังหู โดยให้หลังส่วนล่างแนบไปพื้น จากนั้้นยกแนวไหล่ทั้งสองข้างขึ้นมาจากพื้นไม่เกิน 3 นิ้ว แล้วค่อยกลับไปอยู่ท่าเดิม ไม่ควรกดคางแนบกับอกหรือใช้มือดึงคอขึ้นมา ทำเซตละ 15-24 ครั้ง จำนวน 2 เซต
  • ฝึกกล้ามเนื้อหลัง (Back Raise) นอนคว่ำไปบนพื้น ยื่นมือออกไปข้างหน้าหรือเอามือไว้ที่ขมับ เหยียดขาและปลายเท้าราบบนพื้น จากนั้นยกไหล่ขึ้นมาจากพื้นไม่เกิน 3 นิ้ว แล้วค่อย ๆ กลับไปอยู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำเช่นนี้เซตละ 15-24 ครั้ง จำนวน 2 เซต

ออกกำลังกายลดน้ำหนัก ที่ผู้หญิงอยากหุ่นดีต้องไม่พลาด !!

1. วิ่งลดน้ำหนัก

ไม่ว่าจะวิ่งช้า วิ่งเร็ว หรือวิ่งอยู่กับที่ก็ล้วนช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีทั้งสิ้น เพราะเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่จะกระตุ้นการเต้นของหัวใจและระบบเผาผลาญได้โดยตรง ซึ่งการวิ่งสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากถึง 566-839 กิโลแคลอรี/ชั่วโมงเลยทีเดียว

ทั้งนี้ใครที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน แนะนำให้วิ่งแบบหนักสลับเบา เช่น ให้เริ่มที่การวิ่งเร็ว 60 วินาที สลับกับการพักเดิน 30 วินาที ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบ 1 ชั่วโมงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะการวิ่งแบบหนักสลับเบา แบบนี้เรียกว่า คาร์ดิโอแบบ Interval Training หรือ การออกกำลังกายแบบ HIIT เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญของร่างกายนั่นเอง

ถ้าใครฝึกวิ่งไปเรื่อยๆ แล้วน้ำหนักไม่ลดลง ตามไปอ่านได้ที่ วิ่งอย่างไรให้น้ำหนักลด แต่บางคน วิ่งแล้วน้ำหนักขึ้น เราก็เคยเขียนบทความไว้เช่นกันค่ะ ลองอ่านกันได้ที่บทความนี้เลย ยิ่งวิ่งยิ่งอ้วน

2. เดินขึ้น-ลงบันได

เป็นวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะกับคนที่ขี้เกียจเป็นที่สุด เพราะเพียงแค่เดิน-ขึ้นลงบันได ก็สามารถเผาผลาญแคลอรีได้ถึง 452 – 670 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง แถมยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อขาได้อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น แนะนำให้เดินบ้าง วิ่งบ้าง หรืออาจถือดัมเบลไปด้วยก็จะยิ่งกระตุ้นการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้นไปอีกค่ะ ใครไม่มีแนะนำเป็นถือขวดน้ำแทนได้นะคะ เลือกตามน้ำหนักที่เหมาะสมกับเราได้เลย

3. กระโดดเชือก

สำหรับใครที่ไม่สะดวกไปออกกำลังกายนอกบ้าน การกระโดดเชือก ก็เป็นวิธีการออกกำลังกายลดความอ้วน ที่ออกได้เลยที่บ้าน และเป็นวิธีที่ได้ผลดีมากทีเดียว โดยการกระโดดเชือก 1 ชั่วโมง จะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากถึง 667 – 990 กิโลแคลอรี

แต่ก็ต้องกระโดดให้ถูกวิธีด้วยนะคะ เพื่อป้องกันปัญหาข้อเท้าและข่อเข่าเสื่อมนั่นเอง การกระโดดเชือกที่ถูกวิธี ควรลงน้ำหนักเบาๆ ที่ส่วนหน้าของฝ่าเท้า หลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักที่ส้นเท้าเพื่อลดการเกิดอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าค่ะ และในการกระโดดเชือกเพื่อลดน้ำหนักไม่ควรกระโดดสูงจากพื้นมากนัก รวมทั้งให้ผ่อนคลายหัวไหล่และข้อมือในขณะที่กระโดดเชือกด้วย

4. เวทเทรนนิ่ง

ถึงแม้ว่าเวทเทรนนิ่งจะเน้นการสร้างกล้ามเนื้อมากกว่าการคาร์ดิโอ แต่นี่แหละเป็นทางลัดของความผอมที่จะทำให้คุณได้ผลลัพธ์แบบสองต่อ เพราะเมื่อมวลกล้ามเนื้อในร่างกายของเราเพิ่มขึ้น ก็จะกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้มากขึ้นกว่าเดิม

และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการเวทเทรนนิ่ง คือ หลังจากฝึกเสร็จแล้ว ร่างกายจะยังคงเผาผลาญพลังงานต่อไป แม้ว่าเราจะอยู่เฉยๆ ก็ตาม ในขณะที่การออกกำลังกายแบบอื่นๆ ส่วนมากร่างกายจะหยุดเผาผลาญไปพร้อมกับการที่เราหยุดออกกำลังกาย

5. คาร์ดิโอลดน้ำหนัก แบบ คิกบ๊อกซิ่ง

คาร์ดิโอ คิกบ๊อกซิ่ง เป็นการนำการต่อยมวยมาประยุกต์เข้ากับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ผสมผสานกับท่าบริหารร่างกายต่างๆ ช่วยให้เราได้คาร์ดิโอและบริหารทุกส่วนของร่างกายไปพร้อมๆ กัน การออกกำลังกายประเภทนี้ช่วยสลายไขมันได้อย่างง่ายดาย เผาผลาญแคลอรีได้มากถึง 582 – 864 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง

นอกจากจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักแล้ว การที่เราได้ออกท่าทางเตะ ต่อยต่างๆ ยังช่วยให้เราคลายเครียดอีกด้วย ทั้งนี้แนะนำให้ออกกำลังกายด้วยการคิกบ็อกซิ่ง 90 วินาที สลับกับพัก 30 วินาที เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญได้ดีที่สุด เพราะเป็นการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา ช่วยเร่งระบบเผาผลาญของร่างกาย

วิธีออกกำลังกายที่บ้าน ฟิตหุ่นให้ปัง พื้นที่จำกัดไม่ใช่ปัญหา

1. ฮูลาฮูป

การออกกำลังกายด้วยฮูลาฮูป ถือเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย นอกจากจะไม่ต้องใช้พื้นที่มากแล้ว ยังไม่ต้องมีอุปกรณ์อื่นๆ มาเสริม การออกกำลังกายด้วยฮูลาฮูปมีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนท้องและแกนกลางลำตัว ช่วยฝึกการควบคุมร่างกาย และอีกหนึ่งผลลัพธ์ของการเล่นฮูลาฮูปที่หลายคนออกมาการันตีว่าเห็นผลจริงนั่นก็คือการช่วยลดไขมันหน้าท้องทำให้เอวเล็กลง แถมเนื้อหนังส่วนนี้ยังดูเฟิร์มกระชับขึ้นอีกด้วย

2. กระโดดเชือก

หากคุณรู้สึกไม่ค่อยแอคทีฟ การกระโดดเชือกจะช่วยสร้างความเฟรชให้คุณได้มากทีเดียว การออกกำลังกายด้วยการกระโดดเชือกมีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ช่วยฝึกการทรงตัว ฝึกสมาธิ ได้พัฒนาระบบประสาท เพราะการกระโดดเชือกคุณจำเป็นต้องควบคุมสายตา แขน ข้อมือ เท้า ให้มีความสัมพันธ์กัน นอกจากนี้ การกระโดดเชือกยังมีส่วนช่วยฟื้นฟูให้หัวใจแข็งแรง ระบบเลือดสูบฉีดดี และเร่งการเผาผลาญได้ไม่แพ้กับการออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ เลย

3. เต้น

สำหรับใครที่ไม่ถนัดการออกกำลังไม่ว่าหนักหรือเบา เราขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาเป็นการออกสเต็ปเรียกเหงื่อด้วยการเต้น ซึ่งการเต้นในที่นี้ก็ไม่จำกัดเลยนะคะว่าต้องเต้นเพลงอะไรหรือเต้นแนวไหน ขอแค่ร่างกายได้ขยับใช้พลังงานต่อเนื่องสัก 40 – 60 นาที / วัน ส่วนประโยชน์ของการเต้นก็ไม่ใช่แค่ความบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว กล้ามเนื้อยืดหยุ่น และช่วยฝึกสมดุลของร่างกาย

4. คาร์ดิโอตามยูทูป

ใครที่อยากออกกำลังกายแบบไม่พึ่งอุปกรณ์หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มคาร์ดิโออย่างไรดี เราขอแนะนำว่าให้เข้ายูทูปได้เลย มีคลิปสอนท่าคาร์ดิโอมากมาย ซึ่งการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนี้จะเน้นการเผาผลาญไขมันด้วยวิธีการขยับร่างกายแบบต่อเนื่อง ปกติแล้วการคาร์ดิโอ 1 ท่าจะใช้เวลาเฉลี่ยที่ 1 นาที จากนั้นหยุดพัก 10 วินาที ตามด้วยท่าต่อๆ ไปอีกท่าละ 1 นาที 

5. โยคะ

การเล่นโยคะมีส่วนช่วยยืดเส้นต่างๆ ตามร่างกายได้เป็นอย่างดี ช่วยฝึกสมาธิ ผ่อนคลายความเครียด เพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ หากมองผิวเผินการออกกำลังกายด้วยโยคะอาจจะดูเฉื่อยช้า แต่กลับต้องใช้พลังงานภายในเป็นอย่างมาก ทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญ สัดส่วนกระชับ แถมยังช่วยปรับบุคลิกให้ดีขึ้นด้วย

6. เล่นเวท

การเล่นเวท คือการออกกำลังกายที่เน้นสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อให้แข็งแรง ช่วยเผาผลาญแคลอรี รักษาความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งการเล่นเวทในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเล่นอย่างจริงจังหรือเล่นจนมีกล้ามเนื้อที่กำยำ แต่เล่นเพื่อเสริมสร้างให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ดูเฟิร์มกระชับสวยงามก็พอ

7. ทำงานบ้าน

แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย ฉะนั้น การลุกขึ้นมาทำงานบ้านให้บ่อยขึ้นก็ถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น กวาดบ้าน ถูพื้น ล้างจาน หรือรีดผ้า กิจกรรมทั้งหมดนี้ล้วนแต่ต้องใช้พลังงานทั้งนั้น แถมการที่เราขยับร่างกายบ่อยๆ ก็ยังมีส่วนช่วยให้รูปร่างเฟิร์มกระชับ กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ยังมีความแข็งแรงยืดหยุ่น

9 แบบฝึกหัดดัมเบลสำหรับผู้เริ่มต้นยกน้ำหนัก

9 แบบฝึกหัดดัมเบลสำหรับผู้เริ่มต้นยกน้ำหนัก ออกกำลังกายที่โรงยิมทุกวันอาจต้องเสียเงินค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตารางงานที่วุ่นวายของคุณควบคู่ไปกับการเดินทางที่เหนื่อยล้าหลังเลิกงานและเราได้รับมัน แต่นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่จะไม่ยกดัมเบลล์สักคู่แล้วฝึกน้ำหนักด้วยตัวเองที่บ้าน คุณสามารถออกกำลังกายในบ้านของคุณเองได้อย่างสบายและได้รับผลลัพธ์เท่ากับผู้ชายที่อยู่ในยิม

9 แบบฝึกหัดดัมเบลสำหรับผู้เริ่มต้นยกน้ำหนัก

ดังนั้นในครั้งต่อไปที่คุณขี้เกียจเกินไปที่จะออกจากบ้านหลังจากทำงานมาทั้งวันแทนการผัดวันประกันพรุ่งไปตลอดกาลสิ่งที่คุณต้องทำคือคว้าดัมเบลล์คู่หนึ่งและเริ่มฝึก และแม้ว่าคุณจะเป็นผู้เริ่มต้นและยังไม่เคยก้าวเท้าเข้ายิมมาก่อนอย่ากังวล เราได้จัดทำแบบฝึกหัดดัมเบล 9 ตัวสำหรับคุณด้านล่างนี้

1. Dumbbell push-ups in a row

คุณจะทำงานกลุ่มกล้ามเนื้อหลายกลุ่มเพื่อการเติบโตสูงสุดด้วยการออกกำลังกายนี้และยังช่วยเสริมสร้างข้อต่อไหล่ของคุณ ก่อนที่คุณจะก้าวเข้าสู่การฝึกไหล่ที่ท้าทายยิ่งขึ้นซึ่งจะต้องใช้โรงยิมเช่นแท่นวางแบบเอียงให้ลองทำสิ่งนี้ที่บ้านก่อนเพื่อเตรียมตัวให้ดีขึ้น

วิธีการ: เริ่มต้นด้วยท่าผลักด้วยมือของคุณถือดัมเบลล์ไว้กับพื้นวางไหล่กว้างห่างจากกันและกลับด้านแบน ให้แน่ใจว่าร่างกายของคุณอยู่ในแนวเส้นตรงจากหัวถึงส้นเท้าของคุณด้วยความช่วยเหลือจาก glutes ของคุณ วางเท้าของคุณกว้างไหล่ด้วยกัน ลดระดับตัวเองจนกว่าหน้าอกของคุณจะอยู่ห่างจากพื้นเพียงหนึ่งนิ้ว จากนั้นลอยขึ้นไปด้วยพลังทั้งหมดของคุณโดยการยืดแขนของคุณอย่างเต็มที่ ดึงแขนซ้ายของคุณกลับมา (ถือดัมเบล) ด้วยความช่วยเหลือของข้อศอกของคุณและวางมันลง ทำซ้ำการกดและทำงานแขนขวาของคุณในการเคลื่อนไหวแถวในครั้งนี้ สิ่งนี้ทำให้หนึ่งตัวแทน

2. Dumbbell standing shoulder press

นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าในการทำงานไหล่ของคุณแทนที่จะยกดัมเบลล์จากด้านหลังคอของคุณ หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นให้มุ่งเน้นไปที่การป้องกันความเครียดจากข้อต่อของคุณเพื่อป้องกันตัวเองจากการบาดเจ็บที่รู้จักกันว่าเป็นโรคไหล่

วิธีการ: ยืนด้วยความกว้างไหล่เท้าแยกจากกัน ถือดัมเบลล์ทั้งสองไว้ที่ความสูงระดับหัวไหล่โดยจับมือขวาและฝ่ามือหันไปในทิศทางไปข้างหน้า ให้แน่ใจว่าข้อศอกของคุณไม่บานออกไปด้านข้างพวกเขาต้องอยู่ด้านหน้าบาร์ตลอดการเคลื่อนไหว ยืดแขนของคุณออกไปพร้อม ๆ กับที่ยกน้ำหนักขึ้นเหนือศีรษะ ค่อยๆกลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น

3. Dumbbell squat

Squats เป็นแบบฝึกหัดที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างความแข็งแรงโดยรวม ประโยชน์ของการใช้ดัมเบลล์ในขณะทำท่าสควอชคือมันช่วยให้คุณมีสมาธิกับเทคนิคและทำงานกับช่วงการเคลื่อนไหวของคุณด้วยน้ำหนักเบา เมื่อคุณเชี่ยวชาญการเคลื่อนไหวนี้แล้วคุณสามารถเข้าสู่ barbell squats ที่โรงยิมได้

วิธีการ: ถือดัมเบลล์ไว้ในมือแต่ละข้างแล้ววางไหล่กว้างออกจากกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวของคุณจับขึ้นและกลับมาตรง จากนั้นนั่งลงและหมอบจนกระทั่งดัมเบลล์ในมือของคุณห่างจากพื้นเพียงหนึ่งนิ้ว มุ่งเน้นไปที่การวางตำแหน่งหัวเข่าของคุณมากกว่าเท้าและหน้าอกของคุณพองตัวออก จำกัด อย่างเคร่งครัดจากการโค้งหลังหรือเอนไปข้างหน้าในขณะที่คุณเลื่อนลง เหยียดขาของคุณและค่อยๆกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น

4. Farmer’s walk

นี่คือการออกกำลังกายที่ง่ายมากและคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทำให้ถูกต้อง มันทำงานความคงตัวที่ไหล่ของคุณกับดักส่วนบนและส่วนหน้า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงในการยึดเกาะของคุณด้วยดังนั้นจึงถ่ายโอนความแข็งแกร่งไปยังลิฟท์อื่น ๆ ของคุณด้วย

วิธีการ: หยิบดัมเบลล์ในแต่ละมือ – ด้านที่หนักกว่าเล็กน้อย – และถือไว้ที่ด้านข้างของคุณ ลุกขึ้นยืนสูงถือท่าทางเย่อหยิ่งโดยทรวงอกอกและไหล่กลับ เดินไปข้างหน้าให้เร็วที่สุดโดยใช้ขั้นตอนสั้น ๆ

5. Dumbbell Lateral raise

นี่คือหนึ่งในแบบฝึกหัดดัมเบลที่ดีที่สุดที่จะทำที่บ้านสำหรับการพัฒนาไหล่ที่มองเห็นได้ การเคลื่อนไหวจะแยกเดลทอยด์ที่อยู่ตรงกลาง – กลางกล้ามเนื้อไหล่ทั้งสาม – ช่วยในการพัฒนาความกว้างและมวลไหล่ของคุณ มันเหมาะสำหรับการรับรูปตัววีหรือโลภ Johnny-Bravo

วิธีการ: ถือดัมเบลน้ำหนักเบาในมือแต่ละข้างแล้วค่อยๆยกออกไปด้านข้างจนกว่าพวกเขาจะสูงถึงระดับไหล่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้รับพวกเขาสูงกว่าระดับนี้และต่อต้านความอยากที่จะโกงโดยการแกว่งดัมเบล หยุดชั่วครู่หนึ่งแล้วค่อยๆลดดัมเบลกลับไปที่ด้านข้างของคุณ การเคลื่อนไหวของแรงดึงดูดการต่อสู้จะช่วยให้คุณสร้างกล้ามเนื้อมากขึ้น

6. Dumbbell calf raise

กำลังกายน่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นมือใหม่ หากคุณเพิ่มการออกกำลังกายนี้ให้กับกิจวัตรดัมเบลของคุณที่บ้านคุณจะออกกำลังกายให้ได้มากเท่ากับที่โรงยิม

วิธีการ: เริ่มต้นด้วยการยืนกับลูกบอลเท้าของคุณในขั้นตอนที่ยกขึ้นและส้นเท้าสัมผัสพื้น ถือดัมเบลในมือแต่ละข้างแล้วยกส้นเท้าขึ้นจากพื้นที่ด้านบนสุดของการหดตัวทุกครั้ง จากนั้นค่อยๆลดระดับตัวเองลงไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น

7. Bicep curl

การเคลื่อนไหวนี้จะช่วยให้คุณพัฒนากล้ามเนื้อกระจกที่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของได้ ด้วยการรักษาต้นแขนให้นิ่งคุณจะทำงาน bicep ทั้งหมดเพื่อการเติบโตสูงสุด

วิธีการ: ในขณะที่รักษาแขนส่วนบนของคุณนิ่งให้ยืนตรงและถือดัมเบลในแต่ละมือ ขดน้ำหนักจนกระทั่งอยู่ในระดับไหล่และมุ่งเน้นที่การทำให้ข้อศอกของคุณนิ่งอยู่เสมอ ให้ขยับแขนท่อนล่างตลอดการเคลื่อนไหว บีบ bicep ของคุณที่ด้านบนของการหดตัวทุกครั้งแล้วลดแขนของคุณช้าลงและทำซ้ำ

8. Dumbbell step-up

การเคลื่อนไหวนี้ช่วยให้คุณเปิดใช้งานกล้ามเนื้อต้นขาทั้งหมดของคุณเช่น glutes, คณะสี่คนและเอ็นร้อยหวาย โดยทั่วไปมันประกอบด้วยวันขาทั้งในการย้ายเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้มันเป็นผลกระทบต่ำซึ่งจะป้องกันคุณจากการบาดเจ็บที่หัวเข่าที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายที่ระเบิดได้มากขึ้น

วิธีการ: ยืนหน้าม้านั่งถือดัมเบลในมือแต่ละข้าง วางเท้าขวาของคุณลงบนม้านั่งแล้วดันขึ้นไปข้างบนด้วยความช่วยเหลือของส้นเท้าเพื่อยกร่างกายของคุณ ทีนี้เหยียบย่ำโดยใช้เท้าซ้ายของคุณแล้วทำซ้ำเหมือนเดิมบนฝั่งตรงข้าม

9. Dumbbell floor press

การออกกำลังกายนี้จะช่วยให้คุณสร้างหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นและป้องกันความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ไหล่จากการยืดออกมากเกินไป สิ่งนี้จะให้การฝึกอบรมที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเคลื่อนไหวที่ท้าทายที่โรงยิม

วิธีการ: นอนราบกับพื้นด้วยดัมเบลในแต่ละมือ งอข้อศอกของคุณและยกน้ำหนักไว้เหนือคุณในขณะที่กดขึ้นและยืดแขนของคุณก่อนที่จะหยุดชั่วครู่ที่ด้านบนของตัวแทน ตอนนี้ค่อยๆลดลงไปที่ตำแหน่งเริ่มต้นและทำซ้ำการเคลื่อนไหวอีกสองครั้ง

ที่มา: www.gqindia.com

การเคลื่อนไหวนี้จะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการออกกำลังกายไหล่

การเคลื่อนไหวกับดัมเบลล์นี้จะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการออกกำลังกายไหล่หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากคือปรับตัวได้ง่ายสำหรับผู้ที่มีข้อ จำกัด ทางกายภาพ หากคุณได้รับการยกมาเป็นเวลานานคุณจะต้องเผชิญกับความปวดไหล่ไม่ช้าก็เร็ว – และหากคุณยังไม่ได้มันจะจ่ายเงินเพื่อใช้มาตรการป้องกันก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น

ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับหัวไหล่หรือการเคลื่อนไหวที่ จำกัด ให้เปลี่ยนมุมที่คุณเหยียดแขนขึ้น (หมายความว่าจะมีช่องว่างระหว่างแขนกับหูของคุณ) “แอตกินส์ให้คำแนะนำ “การเคลื่อนไหวนั้นเป็นของ ‘อาร์ค’ ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอยู่ในแนวความคล่องตัวของเรา” ในการแสดง PAR-CAR คุณจะต้องมีดัมเบลล์ชุดหนึ่ง นี่คือการเคลื่อนไหวที่ไม่ควรทำด้วยน้ำหนักมาก – ดังนั้นควรเก็บของที่มีน้ำหนักเกินกว่า 10 ปอนด์ไว้บนชั้นวาง หากคุณต้องการดัมเบลล์ชุดนี้ที่บ้านลองดูตัวเลือกนี้จาก Bowflex

1.ยืนอยู่ในท่าทางนักกีฬาถือดัมเบลในมือข้างหนึ่ง ใช้แขนข้างของคุณเปิดใช้งานส่วนที่เหลือของร่างกาย (บีบแกนของคุณและ glutes) ในขณะที่คุณค่อยๆเหยียดแขนขึ้นไปทางเหนือศีรษะ

2.เมื่อ bicep ของคุณเข้าใกล้หรือผ่านหูให้หมุนไหล่ของคุณเพื่อให้ฝ่ามือหันออกไปด้านนอกแล้วยืดแขนอีกสองสามนิ้วข้างหลังคุณ

3.ค่อยๆลดแขนของคุณเพื่อกลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น

หากไหล่ของคุณมีน้ำหนักเกินโดยเฉพาะอย่างยิ่งแอตกินส์แนะนำให้ทิ้งดัมเบลล์และเพิ่งผ่านการเคลื่อนไหว “ถ้าคุณมีปัญหาไหล่ฉันขอแนะนำให้ลองก่อนโดยไม่ต้องมีน้ำหนัก” เธอกล่าว “คุณสามารถทำสิ่งนี้ในฐานะวอร์มอัพโดยไม่ต้องมีน้ำหนักที่เรียกว่ารถบ่า (ควบคุมด้วยเสียง)”

เพิ่มที่จุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดของการออกกำลังกายไหล่ของคุณด้วย 3 ชุด 8 reps ต้องการเรียนรู้การเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากแอตกินส์หรือไม่ ตรวจสอบซีรี่ส์ของเราเต็มไปด้วยเคล็ดลับการออกกำลังกายของเธอลองเธอย้าย

การออกกำลังกายร่างกายทั้งหมด 4 สัปดาห์จะช่วยให้คุณเริ่มต้นปี 2019 ได้อย่างถูกต้อง

การออกกำลังกายร่างกายทั้งหมด 4 สัปดาห์จะช่วยให้คุณเริ่มต้นปี 2019 ได้อย่างถูกต้อง โปรแกรมนี้จะทำให้เดือนแรกของปีดีขึ้นและดีขึ้น

ในปีนี้เอ็บเบนเนเซอร์ซามูเอล CSCS ผู้อำนวยการฟิตเนสของเฮลธ์เฮลธ์จะแนะนำคุณเกี่ยวกับ MH Ultimate 10 ชุดการฝึกอบรมแบบรายเดือนที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงที่เรารู้ว่าต้องการตั้งแต่หกแพ็คถึงแขน เหล็ก. นี่เป็นงวดแรก – เดือนหน้าเราจะให้คุณมากกว่านี้

เพื่อช่วยให้คุณฟื้นตัวจากความตะกละในวันหยุดเราจึงหันไปหา Sean Garner, N.S.C.A.-C.PTT ผู้สร้าง Project DadBod สำหรับการประชุมแบบเต็มตัว ในช่วงแปดปีที่ผ่านมาการ์เนอร์ได้ทำงานร่วมกับผู้ชายหลายร้อยคนเพื่อช่วยให้พวกเขากลับมามีร่างกายที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องเปลี่ยนการออกกำลังกายทุกครั้งให้กลายเป็นงานรื่นเริง โปรแกรมนี้เน้นสี่วิธีสำคัญที่คุณเคลื่อนไหว: การผลัก, การดึง, บานพับสะโพกและการนั่งพับเพียบ นอกจากนี้คุณจะกำหนดเป้าหมาย abs ของคุณและคุณจะกำหนดอัตราการเต้นของหัวใจของคุณใหม่ด้วยการระเบิดของหัวใจ ผลลัพธ์: กล้ามเนื้อตื่นตัวและข้อต่อหล่อลื่นให้คุณออกกำลังกายอย่างดีนานหนึ่งปี มาเริ่มกันเลย!

คำสั่ง

ทำวอร์มอัพ 3 นาทีจากนั้นทำวงจรออกกำลังกาย 3 รอบ ทำแบบฝึกหัดนี้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์สำหรับ 4 สัปดาห์ถัดไป

วอร์มอัพ

ทำสว่านแต่ละครั้งเป็นเวลา 60 วินาที อย่านับตัวแทน; มุ่งเน้นไปที่รูปแบบและใช้เวลาของคุณ

1. การหมุน T-Spine ไปยัง Dog Downward

เริ่มต้นในตำแหน่ง pushup รักษาขาซ้ายของคุณให้ตรงวางเท้าขวาของคุณไว้นอกมือขวา ถือ. ยกแขนขวาขึ้นไปหาเพดาน กดค้างจากนั้นกลับสู่ตำแหน่ง pushup เลื่อนเท้าไปข้างหน้าเล็กน้อยจากนั้นยกสะโพกขึ้นสูง พยายามสร้างเส้นตรงจากมือของคุณผ่านสะโพกของคุณในขณะที่พยายามยืดขาให้ตรง กดค้างไว้แล้วกลับไปที่จุดเริ่มต้น นั่นคือ 1 ตัวแทน

2. Toe-Touch Squat

เริ่มยืนเท้าห่างจากช่วงไหล่กว้างจับแขนไว้ข้างหน้าคุณ ทำให้หลังแบนราบเล็กน้อยงอเข่าเล็กน้อยแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้าจนสุดสะโพกจนมือแตะนิ้วเท้า เมื่อทำเสร็จให้งอเข่าเพื่อให้คุณอยู่ในท่าหมอบต่ำ เอื้อมแขนของคุณ ยืนขึ้น นั่นคือ 1 ตัวแทน

3. Sprint Buildup

เริ่มยืน เป็นเวลา 15 วินาทีเดินช้าๆเข้าที่ยกเข่าแต่ละข้างให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในแต่ละขั้นตอน จากนั้นเขย่าเบา ๆ ในสถานที่เป็นเวลา 15 วินาที จบด้วยการเร่งความเร็วสูงสุดเป็นระยะเวลา 30 วินาทีเคลื่อนที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มุ่งยกเท้าแต่ละข้างให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่อสัมผัสพื้น

Eb กล่าวว่า:“ ในช่วงเดือนมีนาคมยกเข่าแต่ละข้างขึ้นมาอย่างน้อยก็สูงถึงสะโพกของคุณ หยุดชั่วคราวสมดุลบนเท้าที่มีสายดินของคุณ มันเป็นความท้าทายที่ประเมินค่าไม่ได้”

ความแข็งแรง

ทำแบบฝึกหัดตามลำดับ พัก 60 วินาทีระหว่างรอบ ทุกสัปดาห์ยกเว้นการเคลื่อนไหวร่างกายกลวงลดตัวแทนที่คุณทำในแต่ละการออกกำลังกาย 1 และเพิ่มน้ำหนักเล็กน้อย

1. Dumbbell Romanian Deadlift

ยืนถือดัมเบลล์ที่มีน้ำหนักปานกลางที่ด้านข้างของคุณแยกความกว้างสะโพกออกจากกันค้ำยันหลักเข่างอเล็กน้อย นี่คือจุดเริ่มต้น บานพับที่สะโพกของคุณและผลักก้นของคุณไปข้างหลังลดเนื้อตัวของคุณ บานพับจนกระทั่งคุณรู้สึกถึงการยืดกล้ามเนื้อเล็กน้อย หยุดชั่วคราวจากนั้นยืนขึ้นบีบแก้วของคุณ นั่นคือ 1 ตัวแทน ทำ 12

2. Alternating Dumbbell Row

ยืนถือดัมเบลล์น้ำหนักปานกลาง บานพับที่สะโพกจนลำตัวเกือบขนานกับพื้น นี่คือจุดเริ่มต้น บีบสะบัดไหล่แล้วยกดัมเบลล์ไปทางหน้าอก ลดมันและทำซ้ำกับดัมเบลซ้าย นั่นคือ 1 ตัวแทน ทำ 12

Eb กล่าวว่า:“ นี่เป็นงานหลักที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน เกร็งหน้าท้องเอบีเอสของคุณอย่างแรงและต่อสู้เพื่อกระตุ้นลำตัวขณะที่คุณยกน้ำหนักขึ้น”

3. Side-Plank Press

เริ่มต้นด้วยไม้กระดานด้านซ้ายข้อศอกซ้ายของคุณบนพื้นและลำตัวและสะโพกแน่นดัมเบลล์แสงต่อหน้าคุณ จับดัมเบลด้วยมือขวาของคุณ กดสะโพกขึ้นไปเรื่อย ๆ ขณะยกดัมเบลขึ้นจากพื้นแล้วดึงเข้าหาเพคขวาของคุณ กดไปทางเพดานแล้วกลับไปที่พื้น นั่นคือ 1 ตัวแทน ทำ 12 ต่อด้าน

4. Glute Bridge Floor Press

นอนราบกับพื้นที่ถือดัมเบลน้ำหนักปานกลางต้นแขนอยู่บนพื้นข้อศอกงอ 90 องศา ขันให้แน่นแล้วดันสะโพกขึ้น กดดัมเบลขึ้นด้านบน หยุดชั่วคราวจากนั้นย่อส่วนกลับไปที่จุดเริ่มต้น นั่นคือ 1 ตัวแทน ทำ 12

5. Bulgarian Split Squat

วางเท้าขวาของคุณบนม้านั่งหรือกล่องที่มีความสูงประมาณเข่างอเข่าเล็กน้อยแล้วก้าวเท้าซ้ายออกไปประมาณ 18 นิ้ว ขาซ้ายของคุณควรจะเกือบจะตรง ถือดัมเบลน้ำหนักปานกลางนั่งไหล่ของคุณ เข่างอซ้ายนั่งเอนหลัง เข่าขวาของคุณจะงอมากขึ้นในขณะที่คุณทำเช่นนี้และเกือบจะสัมผัสพื้น ถือเมื่อต้นขาซ้ายของคุณขนานกับพื้นจากนั้นยืนขึ้น นั่นคือ 1 ตัวแทน ทำ 12 ต่อด้าน

Eb กล่าวว่า:“ ท่านี้ไม่ควรสร้างกล้ามเนื้อ ลองรู้สึกถึงการยืดกล้ามเนื้อเอ็นร้อยหวายและสะโพกที่ขาหลังของคุณ”

6. Hollow Body Hold

เริ่มนอนเหยียดหลังแขนและขาของคุณ ทำให้หน้าท้องของคุณแน่นขึ้นโดยกดแผ่นหลังส่วนล่างลงบนพื้นในขณะที่ทำเช่นนั้น นี่ควรยกขาขึ้นจากพื้น ทำงานเพื่อให้ตรง ยกหัวไหล่ขึ้นจากพื้นเช่นกัน เหยียดแขนออกไปเรื่อย ๆ ขณะทำเช่นนี้ ค้างไว้ 30 วินาที นั่นคือ 1 ตัวแทน ทำ 3 ถึง 5

ที่มา:www.menshealth.com

เรียนรู้พื้นฐานและสร้างกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายดัมเบลทั้งหมด 5 ตัว

 เรียนรู้พื้นฐานและสร้างกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายดัมเบลทั้งหมด 5 ตัว หากเป้าหมายของคุณคือควบคุมการยกน้ำหนักการออกกำลังกายคุณต้องมีความรู้พื้นฐานก่อน การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณได้ใช้เทคนิคที่เหมาะสม (ซึ่งสำคัญกว่าการยกของหนัก) และในตอนท้ายของวันจะทำให้คุณอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในการสร้างกล้ามเนื้อ

การออกกำลังกายรวมตัวแบบเคลื่อนไหวห้าครั้งนี้เป็นเรื่องง่าย – คุณไม่ได้คว้าอุปกรณ์มากมายและมันมีการเคลื่อนไหวที่คุณทำทุกวัน – แต่ให้ฉันชัดเจน: ความเรียบง่ายไม่ได้มีความหมายเหมือนกันกับเรื่องง่าย ฉันรับประกันว่ากล้ามเนื้อของคุณจะเจ็บสักสองสามวันหลังจากที่คุณออกกำลังกายเสร็จ

การออกกำลังกายดัมเบลเริ่มต้น

ก่อนเริ่มต้นใช้งานคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ทำการวอร์มร่างกายแบบไดนามิกเพื่อให้กล้ามเนื้อของคุณอบอุ่นและป้องกันการบาดเจ็บ นี่คือหนึ่งในรายการโปรดของเรา คว้าดัมเบลล์ 10 ปอนด์คู่หนึ่งคู่ ถ้านี่เบาหรือหนักเกินไปสำหรับการออกกำลังกายใด ๆ ให้ปรับน้ำหนัก นี่คือคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับการเลือกน้ำหนักที่เหมาะสม ทำแบบฝึกหัดและเซตที่ระบุไว้ให้ครบถ้วนสำหรับการฝึกแต่ละครั้ง พักไม่เกินหนึ่งนาทีระหว่างการออกกำลังกายแต่ละครั้ง อย่าลืมที่จะใจเย็น ๆ และยืดกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย

  1. Dumbbell squat: 15 เซตสามชุด
  2. Dumbbell deadlift: สามชุด 10 reps
  3. Dumbbell walking lunges: สองชุด 10 reps แถวแขนเดียว: สามชุด 12 reps (แต่ละแขน)
  4. Dumbbell bench press: สามชุด 10 reps