เมื่อถามว่าทำไมเรามักขี้เกียจออกกำลังกายหรือไม่ค่อยมีวินัยในการออกกำลังกาย หลายๆ คนอาจตอบว่าการออกกำลังกายนั้นใช้เวลามากเกินไป จากการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา พบว่า 69% ของคนทั่วไปเชื่อว่า “อุปสรรค” ของการออกกำลังกายคือคำว่า “ฉันไม่มีเวลามากพอ”
สำหรับคนส่วนใหญ่ “เวลาในการออกกำลังกาย” นี้หมายถึงช่วงเวลาที่ออกกำลังกายจนเสร็จอย่างต่อเนื่อง เมื่อคำนวณเวลาคร่าวๆตั้งแต่เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมของ เดินทางไปและกลับ รวมทั้งหมดก็อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง และถ้าคุณมีนัดต่ออีก ตารางวันนั้นจะแน่นมาก จนบ่อยครั้งเราก็จะบอกกับตัวเองว่า วันนี้ไม่ไปออกกำลังกายละกัน!
การออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ คือการออกกำลังกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสียเวลากับเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ให้การออกกำลังกายนั้นได้ผลดีที่สุด
ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการออกกำลังกายแบบปริมาณการฝึกต่ำแต่ความเข้มข้นสูง
ปริมาณการฝึกต่ำ หมายถึง การออกกำลังกายจำนวนต่ำ เช่นจำนวนเซ็ตน้อย
ความเข้มข้นสูง หมายถึง กิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะกว่าหรือการออกกำลังที่หนักกว่า
หลักการคือเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของหัวใจและปอดโดยการออกกำลังมากที่สุดเท่าที่คุณทำได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น ออกกำลังเซ็ตหนึ่งไม่เกินยี่สิบนาที ถ้าตารางวันนี้ของคุณแน่นและไม่มีเวลามาก แต่ยังอยากมีวินัยในการออกกำลังกาย นี่จะเป็นตัวเลือกการออกกำลังกายที่ดีเลยทีเดียว
ประโยชน์สำคัญที่จะได้รับจากการออกกำลังกายแบบนี้คือทำให้คุณรู้สึกว่า “ออกกำลังกายเมื่อไรก็ได้”
- ไม่ต้องหาสถานที่: ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือแค่หากิจกรรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมผ่านแอป และเริ่มออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ เช่น เสื่อโยคะ หรือดัมเบลล์
- ออกกำลังกายสั้นๆ แต่ปรับเปลี่ยนได้ง่าย: การออกกำลังกายแบบนี้ไม่จำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้า แตกต่างจากการออกกำลังกายระดับต่ำหรือปานกลางที่ต้องมีวางแผนเพื่อสะสมความหนัก
- มีประสิทธิภาพ: ไม่ว่าจะเพื่อรักษารูปร่าง เสริมสร้างการทำงานของปอดและหัวใจ หรือช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายดีขึ้น
- ควบคุมประมาณแคลอรี่ที่บริโภค: เพราะการออกกำลังกายแบบนี้จะมีระยะที่สั้น ซึ่งปกติแล้วจะไม่กระตุ้นต่อมความหิวของคุณมากเท่าไหร่